อาณาจักร ‘บอล’ ภราดร’ ยกหมดหน้าตักให้ ‘น้องเฌอลีน’

อาณาจักร ‘บอล’ ภราดร’ วางมือเป็นเศรษฐี 100 ล้าน ยกหมดหน้าตักให้ ‘น้องเฌอลีน’

หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ‘บอล ภราดร ศรีชาพันธุ์’ นักเทนนิสมืออาชีพที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองไทยทั่วโลก ด้วยการเป็นนักเทนนิส 10 อันดับ ของโลก

จนเป็นหนุ่มเป็นฮอตเอามาก ๆ แต่อยู่ดี ๆ ‘บอล ภราดร’ ก็ค่อย ๆ พาตัวเองออกจากทุกวงการ หลังประกาศเลิกเล่นเทนนิสอย่างเป็นทางการ แม้จะหายไปนาน แต่แฟน ๆ ก็ยังคิดถึงเสมอ

“ตั้งใจหายครับ เพราะมีช่วงหนึ่งเราเจอคนเยอะมาก เป็นช่วงที่เราแข่งกีฬาด้วยแล้วรู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวก็น้อย แต่เราก็ไม่ได้หายไปเลยนะครับ เราไปทำสิ่งที่เราชอบ แต่ไม่ใช่เทนนิส

ที่ออกจากวงการไปเพราะตั้งใจว่าเราจะไปอยู่ต่างจังหวัด ชอบพัทยาเพราะเดินทางสะดวก ไป-กลับกรุงเทพฯ ได้ในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง แล้วเราไปซื้อที่ไว้ 4 ไร่ แล้วสร้างบ้านขึ้นมา

เราเป็นคนสร้างเอง ออกแบบเองหมดเลย ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเกือบ 8 ปีครับ พักผ่อน ช่วงนั้นตีกอล์ฟด้วย รู้สึกว่าตอบโจทย์ตัวเองในตอนนั้น

ตอนนี้วางมือเทนนิสอาชีพ ยังไงวันหนึ่งเราก็ต้องหยุดอยู่แล้ว เราเชื่อว่าคนเราสามารถเลือกที่จะทำอะไรได้มากกว่า 1 อย่าง เลยเลือกเล่นกอล์ฟแล้วกัน

เพราะยังมีอยู่ในระเบียบวินัยของนักกีฬา ซึ่งเราก็ทุ่มเทเวลาให้กอล์ฟเป็นเวลา 5 ปี เทนนิสสิ่งที่เราอินมาตลอดชีวิต แต่วันหนึ่งเราประกาศลาวงการ

แต่สุดท้ายคือเรายังไม่ได้ไปไหน เรายังอยู่เมืองไทย ทำอะไรต่าง ๆ ของเราอยู่ ส่วนเรื่องความรักที่เลิกรากับอดีตภรรยา ‘ฟ้า นาตาลี เกลโบวา’ นั้น

สาเหตุมาจากแต่ละฝ่ายไม่สามารถเดินต่อไปได้ในฐานะสามีภรรยา แต่ยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้ ซึ่งความรักครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นบทเรียนของการใช้ชีวิตคู่ ทำให้การใช้ชีวิตคู่ 6 ปี กับภรรยาคนปัจจุบัน ‘ป๊อป’

จึงไม่ได้จัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ แต่มีการจดทะเบียนสมรสและมีลูกด้วยกันเท่านั้น เพราะ ส่วนตัวคิดว่าการจัดงานแต่งไม่ใช่ประเด็นหลักของการใช้ชีวิตคู่ ยืนยันไม่ได้เข็ดกับงานแต่งงาน

ผลักดันลูกสาว น้องเฌอลีนเรื่องกีฬาตั้งแต่เกิดจนตอนนี้เลย ในส่วนหนึ่งเราเป็นนักกีฬามาก่อน เราถูกสร้างวินัยโดยใช้กีฬา พอมีลูกก็อยากให้เขาเล่นกีฬาเพื่อสร้างสมาธิ

สร้างวินัย และที่สำคัญเขาจะมีเพื่อนที่เล่นกีฬาด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพาเขาไปแล้วเขาชอบ แต่ถ้าเขาไม่ชอบก็คงไม่ได้พาไป มองว่ากอล์ฟอาจจะเป็นกีฬาที่ดูเหมาะกับผู้หญิงมากกว่า

คือการซ้อมของเทนนิสมันต้องวิ่งซ้าย วิ่งขวาในการซ้อม แต่กอล์ฟถ้าร้อนเราก็ซ้อมในสนามได้ หรือตอนเย็นหลังเลิกเรียนก็ไปซ้อมได้ แล้วมันฝึกสมาธิ ที่พาเขาไปเขาชอบ

เขามีความสุขกับการที่ได้ไปสนามไดร์ฟ แล้วเขาก็เป็นคนชวนเองวันนี้ไปกอล์ฟกัน คือกอล์ฟถ้าได้เล่นทุกวันเขาจะมีท่าที่ถูกต้อง พื้นฐานที่ดี แล้วก็สามารถที่จะแข่งได้

นี่อีก 2 เดือนจะพาไปแข่งรุ่น 5 ขวบ เพื่อให้เขารู้จักการแข่งขัน แล้วเจอเพื่อนที่อยู่ในวงการแข่งขันด้วย ตอนนี้บางทีเขาก็เล่นแบบผู้ชาย เขาอาจจะเป็นผู้ชายไหม เราก็ไม่รู้ ถ้าเขาเลือกจะเป็นอะไรก็ให้เขาเป็น”